บางครั้งแค่เห็นโลโก้ เราก็รู้เลยว่าแบรนด์นี้ "เป็นใคร" เหมือนเวลาผ่านป้ายร้านเดิมที่คุ้นเคย เห็นสี เห็นรูปทรง หรือฟอนต์บางแบบ ก็จำได้ทันทีว่าเคยมีความรู้สึกดีๆ กับแบรนด์นั้นมากแค่ไหน นั่นแหละคือพลังของโลโก้ ภาพเดียวที่เล่าเรื่องได้ทั้งจักรวาลของแบรนด์
1. Lettermark / Monogram
โลโก้ตัวย่อ ที่กระชับแต่จดจำได้
โลโก้ประเภทนี้เกิดจากการย่อชื่อแบรนด์ให้เหลือเพียง 2–4 ตัวอักษร โดยยังคงความหมายเดิมไว้ เช่น
- NASA = National Aeronautics and Space Administration
- HBO = Home Box Office
- CNN = Cable News Network
Great for brands that…
- มีชื่อแบรนด์ยาวเกินจะใช้เต็มๆ
- ต้องการความเป็นทางการ ดูเป็นมืออาชีพ
- อยากให้คนจดจำชื่อย่อได้ทันที
2. Wordmark / Logotype
โลโก้ที่ให้ชื่อแบรนด์พูดด้วยตัวเอง
แบรนด์ที่ชื่อสั้น ติดหู และมีเอกลักษณ์ มักเลือกใช้โลโก้แบบ Wordmark ซึ่งใช้ชื่อแบรนด์เต็มๆ มาออกแบบให้กลายเป็นโลโก้ที่จดจำได้ ตัวอย่างเช่น Google, Coca-Cola, IKEA, Visa
Great for brands that…
- มีชื่อแบรนด์สั้น จำง่าย
- อยากให้คนจดจำชื่อแบรนด์ได้เป๊ะ
- ต้องการความเรียบง่าย ชัดเจน
3. Pictorial Mark / Symbol Logo
โลโก้ที่เล่าเรื่องด้วยภาพเดียว โดยไม่ต้องใช้คำ
เมื่อพูดถึงโลโก้ Apple หรือ Twitter หลายคนจะนึกถึงภาพ "แอปเปิ้ล" หรือ "นกสีฟ้า" โดยอัตโนมัติ แม้ไม่มีคำอธิบายประกอบ ก็รู้ทันทีว่าแบรนด์อะไร นี่แหละคือพลังของ Pictorial Mark โลโก้ประเภทนี้ใช้ "สัญลักษณ์" ที่กลั่นออกมาจากแก่นของแบรนด์ จะเรียบหรือซับซ้อนก็ได้ แต่สิ่งที่ต้องมีคือ "ภาพจำ" ที่ชัดเจน
Great for brands that…
- มีการรับรู้สูง หรือเอกลักษณ์เฉพาะ
- ต้องการความเรียบ คลีน ใช้งานได้หลายแพลตฟอร์ม
- สื่อสารในหลายภาษาและหลายประเทศ
4. Combination Mark
โลโก้ที่ผสมภาพและคำไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
เมื่อแบรนด์ไม่อยากเลือกข้าง โลโก้แบบ Combination ก็เป็นคำตอบ เพราะรวมทั้ง “ชื่อแบรนด์” และ “สัญลักษณ์” ไว้ด้วยกัน เช่น Starbucks, Burger King, Lacoste, Doritos
Great for brands that…
- อยู่ในช่วงเริ่มสร้างการจดจำ
- อยากให้คนจำทั้งชื่อและภาพไปพร้อมกัน
- มีแผนขยายในอนาคต ต้องการความยืดหยุ่นสูง
แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าโลโก้แบบไหนเป็นโลโก้ที่ใช่สำหรับแบรนด์เรา?
ไม่มีคำตอบตายตัวสำหรับคำถามนี้ แต่สิ่งที่ควรถามก่อนคือ
- แบรนด์ของเรามีนิสัยแบบไหน
- อยากให้คนรู้สึกยังไงตอนเห็นโลโก้
- เราสื่อสารแบบเรียบง่ายหรือซับซ้อน
- แบรนด์นี้ใช้ "เสียงเบาๆ" หรือ "ชัดเจนตรงไปตรงมา"
เพราะสุดท้ายแล้ว โลโก้ที่ดีไม่ใช่แค่สวย แต่ต้องพูดภาษาเดียวกับแบรนด์ ไม่ต้องเด่นกว่าใคร ไม่ต้องซับซ้อนเกินไป แค่สื่อสารตรงจุดและสะท้อนตัวตนให้ชัดเจนที่สุดก็พอ
ถ้าอยากออกแบบโลโก้ที่ไม่ใช่แค่สวย แต่ยัง "พูดเป็น" และสะท้อนตัวตนแบรนด์ได้อย่างลึกซึ้ง เราขอแนะนำคอร์ส Branding Inside Out ของ Casper Schools เราจะพาไปรู้จักโลโก้ ไม่ใช่แค่ในฐานะงานออกแบบ แต่ในฐานะ “ภาษาภาพ” ที่แบรนด์ใช้สื่อสารกับโลกอย่างมีชั้นเชิง ตั้งแต่การค้นหาตัวตนของแบรนด์ ไปจนถึงการแปลงมันออกมาเป็นโลโก้ที่ชัดเจนและทรงพลัง คอร์สนี้ออกแบบมาให้ลงมือจริง ฝึกคิดจริง พร้อมกรอบทฤษฎีที่เข้าใจง่าย เพื่อให้ทุกคนสร้างโลโก้ที่ “พูดได้” และต่อยอดได้ในโลกจริงอย่างมั่นใจ